คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข
วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์
การผลิตแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพที่เกี่ยวกับสุขภาพ มีความสามารถระดับสากลในการสร้างงานวิจัยและนวัตกรรม และมีคุณธรรม จริยธรรม และจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม

ปณิธาน
“คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีปณิธานมุ่งมั่นที่จะผลิตบัณฑิตที่เป็นผู้นำด้านสุขภาพและการบริการทางการแพทย์มีความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม รวมทั้งมีจิตวิญญาณอุทิศตนเพื่อสังคม เพื่อสร้างประโยชน์ให้เกิดกับมวลมนุษยชาติ”
วิสัยทัศน์
คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะเป็นสถาบันระดับโลกที่ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ด้วยความเป็นเลิศด้านการศึกษา วิจัย นวัตกรรม และการเป็นผู้นำ
เอกลักษณ์คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข
คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะเป็นสถาบันระดับโลกที่ส่งเสริมสุขภาพเป็นต้นแบบการบูรณาการสหสาขาด้านการบริหารจัดการการศึกษา การบริการวิชาการและสังคม และการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพอย่างเป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต
อัตลักษณ์ของบัณฑิตคณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข
มีปัญญาและทักษะชีวิตที่เป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต
พันธกิจ
ที่มาของการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข
การเรียนการสอนที่สำคัญ
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ข้อมูลสุขภาพ (โดยความร่วมมือกับมจธ.)
คณะแพทยศาสตร์และการสาธรณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดตั้งหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ข้อมูลสุขภาพขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวอย่างรวดเร็วของข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และรองรับความต้องการนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลซึ่งเป็นสาขาที่ใหม่และมีความสำคัญ โดยทั้งสองสถาบันมุ่งหวังให้บัณฑิตของหลักสูตรฯ สำเร็จการศึกษาออกไปเป็นบุคลากรที่มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลสุขภาพจากแหล่งต่างๆ และนำมาใช้แก้ไขปัญหาทางการแพทย์ และการสาธารณสุขได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว มีระเบียบแบบแผน และสามารถเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต เปิดรับนักศึกษารุ่นแรกเมื่อปีการศึกษา 2561 โดยนักศึกษาจะได้เข้าเรียนทั้งที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรใหม่ พ.ศ.2563)
หราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต 7 ปี 2 ปริญญา หลักสูตรแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลตามเกณฑ์ WFME โดยสถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์ (สมพ.) และแพทยสภา โดยเป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยยูซีแอล สหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยที่ติดอันดับท๊อปเทนของโลก ที่ได้ร่วมเป็นที่ปรึกษาของการพัฒนาหลักสูตร และได้เข้าร่วมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตกับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันระดมสมองจากทุกภาคส่วนในการที่จะพัฒนาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตแนวใหม่ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมีโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสนับสนุนภารกิจด้านการจัดการเรียนการสอนทางคลินิก โดยเป็นสถานฝึกปฏิบัติทางคลินิกหลักของหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรใหม่ของคณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ด้วยมาตรฐานการเรียนแพทย์แบบใหม่ในหลักสูตรการศึกษาตามมาตรฐานสากล พร้อมสร้างแพทย์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีทักษะวิชาชีพที่เป็นเลิศ ดูแลผู้ป่วยและครอบครัวอย่างเป็นองค์รวม รู้จักคิด ค้นคว้าสร้างองค์ความรู้ใหม่เพื่อพัฒนาสังคมและประเทศตามคุณลักษณะแพทย์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาฟิสิกส์การแพทย์
คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ได้จัดตั้งหลักสูตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาฟิสิกส์การแพทย์ โดยมุ่งเน้นผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์การแพทย์ โดยเฉพาะด้านรังสีรักษา ซึ่งมีความสามารถทั้งในด้านการปฏิบัติการคลินิก และในด้านการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อนำไปสู่การประยุกต์ใช้จริงในองค์กรของตน เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นสำคัญ ดังนั้นหลักสูตรนี้จึงมุ่งเน้นการเรียนการสอนภาคทฤษฎี ควบคู่กับภาคปฏิบัติทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกับการผลิตผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นเลิศ ผ่านความร่วมมือกับสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายในการผลิตบุคลากรที่มีความพร้อมในการปฏิบัติงานในโรงพยาบาล หรือสถานประกอบการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง